การนำเข้าอุปกรณ์การเรียน
:มาทำธุรกิจจะปังหรือร่วง

เมื่อใกล้เปิดเทอมการนำเข้าอุปกรณ์การเรียน เช่น สมุด ปากกา ดินสอ และกล่องดินสอ มักมีความคึกคักมากขึ้น แต่คำถามที่ว่าการนำเข้าสินค้าจากจีนประเภทนี้จะ “ปัง” หรือ “ร่วง” นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของตลาด การแข่งขัน และกลยุทธ์ทางธุรกิจ


- ความต้องการเพิ่มขึ้นช่วงเปิดเทอม
- นักเรียนทุกระดับต้องเตรียมอุปกรณ์ใหม่
- ผู้ปกครองและโรงเรียนมักจัดหาสินค้าในปริมาณมาก
- ต้นทุนสินค้าจากจีนต่ำ
- อุปกรณ์การเรียนจากจีนมีราคาถูกและหลากหลาย เช่น สมุดปกแข็ง ปากกาสี หรือกล่องดินสอลวดลายการ์ตูน
- สินค้าใหม่และดีไซน์ดึงดูดใจ
- เทรนด์อุปกรณ์การเรียนเปลี่ยนแปลงเสมอ เช่น สมุดมินิมอล ปากกาหมึกลบได้ หรือกล่องดินสอพร้อมฟังก์ชันเสริม
- การออกแบบที่มีลวดลายตัวการ์ตูนหรือแบรนด์ดังช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าเด็กและวัยรุ่น
- การตลาดออนไลน์ที่ตอบโจทย์
- การขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee หรือ Lazada ช่วยเพิ่มยอดขายได้ง่าย
- โปรโมชั่นช่วงใกล้เปิดเทอม เช่น ลดราคาหรือจัดชุดแพ็กเกจ
- ความนิยมในของใช้คุณภาพดีราคาย่อมเยา
- โรงเรียนหรือบริษัทมักซื้ออุปกรณ์ในปริมาณมาก เพื่อแจกนักเรียนหรือใช้ในกิจกรรม

- การแข่งขันสูง
- ตลาดอุปกรณ์การเรียนมีผู้ขายจำนวนมาก โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ เช่น Staedtler หรือ Faber-Castell
- สินค้าคุณภาพต่ำอาจถูกตัดราคาได้ง่าย
- พฤติกรรมการใช้สินค้าดิจิทัล
- การเรียนออนไลน์และเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น ทำให้การใช้อุปกรณ์ดิจิทัล เช่น iPad หรือแท็บเล็ต เข้ามาแทนสมุดและปากกา
- ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น
- ค่าขนส่งและภาษีนำเข้าอาจเพิ่มขึ้นในบางช่วง โดยเฉพาะหากสั่งในปริมาณน้อย
- สินค้าไม่ได้มาตรฐาน
- อุปกรณ์ที่มีสารเคมีอันตราย เช่น สีที่มีตะกั่ว หรือพลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจถูกปฏิเสธโดยศุลกากร
- ภาวะเศรษฐกิจที่ยังซบเซา
- หากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ผู้ปกครองอาจเลือกซื้อเฉพาะสิ่งจำเป็น และลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย

- เลือกสินค้าที่มีจุดเด่นและแตกต่าง
- นำเข้าสินค้าที่ไม่เหมือนในตลาด เช่น สมุดโน้ตดีไซน์พิเศษ ปากกาหมึกลบได้ หรือกล่องดินสอมัลติฟังก์ชัน
- สร้างแบรนด์ของตัวเอง (OEM)
- ทำอุปกรณ์การเรียนภายใต้แบรนด์ของคุณเอง โดยเพิ่มโลโก้หรือข้อความเฉพาะ
- ทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย
- จัดโปรโมชั่นดึงดูดใจ
- ลดราคา จัดแพ็กเกจชุดประหยัด หรือของแถมสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อปริมาณมาก
- ตรวจสอบคุณภาพสินค้า
- ขอตัวอย่างสินค้าจากผู้ผลิตเพื่อตรวจสอบคุณภาพก่อนสั่งซื้อ
- มั่นใจว่าสินค้าปลอดภัยและผ่านมาตรฐาน เช่น CE, RoHS
- วางแผนจัดส่งล่วงหน้า
- เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าช่วงใกล้เปิดเทอม

แม้การนำเข้าอุปกรณ์การเรียนจากจีนจะเป็นที่นิยม แต่ก็มีสินค้าบางประเภทที่ไม่สามารถนำเข้าได้หรือมีข้อจำกัดทางกฎหมายและศุลกากรที่ต้องระวัง ดังนี้:
อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย
- ปัญหา:
อุปกรณ์การเรียนที่ผลิตจากวัสดุที่มีสารเคมีอันตราย เช่น ตะกั่ว แคดเมียม หรือสาร BPA - ตัวอย่าง:
- สีเทียนหรือปากกาที่มีสารตกค้างที่เป็นพิษ
- ยางลบที่มีกลิ่นฉุนซึ่งอาจเกิดจากการใช้สารเคมีอันตราย
- ข้อจำกัด:
สินค้าที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น CE, RoHS, หรือมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร อาจถูกกักหรือยึดโดยศุลกากร
- อุปกรณ์ที่มีลิขสิทธิ์หรือปลอมแปลงแบรนด์
- ปัญหา:
การละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเรื่องผิดกฎหมายในหลายประเทศ - ตัวอย่าง:
- สมุด ปากกา หรือกล่องดินสอที่มีลวดลายตัวการ์ตูนหรือโลโก้แบรนด์ดัง เช่น Disney, Hello Kitty โดยไม่ได้รับอนุญาต
- สินค้าลอกเลียนแบบแบรนด์ดัง เช่น Staedtler, Pilot
- ข้อจำกัด:
สินค้าประเภทนี้อาจถูกยึดโดยศุลกากร และผู้นำเข้าต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย
- อุปกรณ์ที่มีข้อความหรือสัญลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม
- ปัญหา:
สินค้าที่มีเนื้อหาขัดต่อศีลธรรม หรือกระทบต่อวัฒนธรรมและความมั่นคงของประเทศ - ตัวอย่าง:
- สมุดหรืออุปกรณ์ที่มีภาพหรือข้อความลามกอนาจาร
- สินค้าที่มีเนื้อหาทางการเมืองที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อย
- อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานในประเทศ
- ปัญหา:
สินค้าที่ใช้วัสดุหรือเทคโนโลยีที่ไม่ผ่านการรับรองในประเทศ - ตัวอย่าง:
- ปากกา 3D หรืออุปกรณ์ที่มีหมึกชนิดพิเศษที่อาจเป็นอันตราย
- สินค้าที่มีส่วนประกอบไฟฟ้า เช่น ไฟ LED ที่ไม่ได้รับมาตรฐาน FCC หรือ CE
- อุปกรณ์ที่ไม่ผ่านข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม
- ปัญหา:
ประเทศไทยและอีกหลายประเทศมีกฎหมายเกี่ยวกับการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติกหรือวัสดุที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม - ตัวอย่าง:
- ปากกาหรือกล่องดินสอที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลไม่ได้
- สินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์พลาสติกมากเกินไป
- สินค้าที่ละเมิดสิทธิ์ทางการค้าและทรัพย์สินทางปัญญา
- ปัญหา:
อุปกรณ์การเรียนที่ผลิตในจีนบางชิ้นอาจละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การออกแบบสินค้าหรือกลไกการใช้งาน - ตัวอย่าง:
- ดินสอกดที่ใช้กลไกเหมือนกับแบรนด์จดสิทธิบัตร
- สมุดที่มีดีไซน์ลอกเลียนแบบ
- สินค้าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้
- ปัญหา:
อุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการใช้งาน เช่น มีส่วนแหลมคม หรือแตกหักง่าย - ตัวอย่าง:
- กรรไกรหรือคัตเตอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
- อุปกรณ์ที่มีส่วนประกอบที่หลุดออกง่าย เสี่ยงต่อเด็กเล็ก

- ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า:
เลือกผู้ผลิตที่มีใบรับรอง เช่น CE, RoHS, หรือใบรับรองอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง - หลีกเลี่ยงสินค้าลิขสิทธิ์:
หากต้องการนำเข้าลวดลายหรือแบรนด์เฉพาะ ต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ - ขอตัวอย่างสินค้า:
เพื่อทดสอบคุณภาพและความปลอดภัยของวัสดุก่อนสั่งซื้อ - ตรวจสอบกฎระเบียบศุลกากร:
เช็กข้อกำหนดของประเทศปลายทางเกี่ยวกับสินค้าต้องห้ามและมาตรฐานนำเข้า - เลือกซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือ:
ควรเลือกโรงงานหรือผู้ขายที่มีประสบการณ์ด้านการส่งออก
สรุป
ตอนนี้ถือว่าการนำเข้าอุปกรณ์การเรียนจากจีนในช่วงเปิดเทอมยังคงมีศักยภาพที่จะ “ปัง” หากเลือกสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาด มีกลยุทธ์การตลาดที่ดี และบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องระมัดระวังในเรื่องการแข่งขันและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หากทำได้ครบถ้วน การทำกำไรในช่วงนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
ง่ายไปกว่านั้นหากการทำธุรกิจของคุณได้เรียนคอร์สสอนสั่งของจากจีนเพื่อมาช่วยให้การสั่งของให้มีความรู้และสั่งเป็นในที่สุดเป็นการเรียนที่คุณสามารถเลือกแบบแผนเองได้ไม่ว่าจะเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัวและการเรียนแบบออนไลน์เราจะสอนคุณจนกว่าจะทำเป็นและเข้าใจในที่สุด

- ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้
- สอนตั้งแต่เริ่มต้น จนชำนาญ
- การันตีผู้เรียน 99.5% เมื่อเรียนจบคอร์ส สามารถสั่งสินค้าเองได้เลย
- มีทริคและเทคนิคพิเศษในการสั่งสินค้าผ่านเว็บให้ เฉพาะนักเรียนของเราทั้งนั้น
พิเศษคอร์ส เรียนออนไลน์
3,500 เหลือเพียง 2,499 / ตลอดชีพ