เคล็ดลับต่อไปนี้

การนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นโอกาสที่ดีในการทำกำไร แต่หลายคนเจอปัญหาต่างๆ เช่น สินค้าไม่ได้มาตรฐาน, โดนโกง, ค่าขนส่งแพงเกินไป, หรือศุลกากรกักของ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ ควรลองใช้ 7 เคล็ดลับต่อไปนี้!

7 เคล็ดลับที่ต้องรู้ : วิธีหลีกเลี่ยงปัญหาการนำเข้าสินค้าจากจีน

วิธี
  1. เลือกซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือ

– ตรวจสอบผู้ขายใน 1688, Alibaba, Taobao ว่ามีรีวิวดีหรือไม่
– ดู อายุร้านค้า, ค่าความน่าเชื่อถือ (เช่น Gold Supplier ใน Alibaba)
– เลือกโรงงานโดยตรงแทนพ่อค้าคนกลาง เพื่อลดต้นทุน


  1. ตรวจสอบมาตรฐานสินค้าและใบรับรอง

– สินค้าควรมีมาตรฐาน เช่น FDA, CE, RoHS, ISO 9001
– หากเป็นสินค้าสัมผัสอาหาร ควรตรวจสอบว่าปลอดภัยและไร้สารอันตราย
– ตรวจ QC (Quality Control) ก่อนจัดส่ง เพื่อลดความเสี่ยงสินค้าเสียหาย


  1. คำนวณต้นทุนทั้งหมดก่อนสั่งซื้อ

– คำนวณ ต้นทุนสินค้า + ค่าขนส่ง + ภาษีนำเข้า + ค่าศุลกากร
– ตรวจสอบอัตราภาษีศุลกากรตาม HS Code ของสินค้า
– เลือกวิธีขนส่งที่เหมาะสม (ทางเรือถูกกว่า ทางอากาศเร็วกว่า)


  1. เลือกวิธีขนส่งที่คุ้มค่า

– ขนส่งทางอากาศ (Air Freight) – เร็วแต่แพง เหมาะกับสินค้าขนาดเล็ก
– ขนส่งทางเรือ (Sea Freight) – ราคาถูก เหมาะกับสินค้าจำนวนมาก
– Shipping แบบเหมาจ่าย – ช่วยลดต้นทุนและรวมค่าภาษี


  1. หลีกเลี่ยงปัญหาศุลกากร

– ตรวจสอบว่าสินค้าต้องมีใบอนุญาตนำเข้าหรือไม่
– เตรียมเอกสารให้ครบ เช่น Invoice, Packing List, Bill of Lading
– ใช้ Shipping ที่มีบริการเคลียร์ภาษีเพื่อลดปัญหาการกักของ


  1. ป้องกันการโดนโกง

– หลีกเลี่ยงร้านที่ราคาถูกเกินจริง เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพ
– ใช้วิธี จ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์มกลาง เช่น Alipay หรือ Trade Assurance
– ตรวจสอบเลขติดตามพัสดุ (Tracking Number) ทุกครั้ง


  1. บริหารสต็อกและจัดส่งให้ลูกค้าไว

– นำเข้าสินค้าล่วงหน้าเพื่อป้องกันของหมด
– ใช้ คลังสินค้าฝาก (Fulfillment Service) ในจีนหรือตัวแทนในไทย
– เลือกบริการขนส่งที่รวดเร็ว เช่น J&T, Flash, Kerry


ป้องกันปัญหาสินค้าห่วย แตกหัก หรือส่งช้า เมื่อนำเข้าจากจีน

ป้องกันปัญหาสินค้าห่วย
  1. เลือกซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้: ก่อนสั่งซื้อสินค้า ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของซัพพลายเออร์ เช่น ดูรีวิวจากลูกค้าก่อนหน้า ตรวจสอบการรับประกันสินค้าหรือการคืนเงินในกรณีสินค้าเสียหาย
  2. การตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนจัดส่ง: ขอให้ซัพพลายเออร์ทำการตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนการจัดส่ง เช่น ถ่ายภาพสินค้าทุกชิ้นหรือให้วิดีโอเพื่อยืนยันคุณภาพ
  3. บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม: ควรเลือกซัพพลายเออร์ที่มีการบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง เพื่อป้องกันการเสียหายระหว่างการขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าแตกหักหรือบอบบาง
  4. การเลือกบริการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ: เลือกผู้ให้บริการขนส่งที่มีชื่อเสียงและการติดตามสินค้าตลอดการเดินทาง เพื่อลดความเสี่ยงในการจัดส่งล่าช้า
  5. การประสานงานกับบริษัทขนส่ง: ติดตามสถานะการขนส่งอย่างใกล้ชิดและติดต่อกับบริษัทขนส่งในกรณีที่มีปัญหาหรือความล่าช้าเกิดขึ้น
  6. การทำประกันสินค้าขนส่ง: หากสินค้ามีมูลค่าสูง ควรพิจารณาทำประกันสินค้าขนส่งเพื่อคุ้มครองในกรณีสินค้าหายหรือเสียหายระหว่างการเดินทาง
  7. การทดสอบสินค้าก่อนนำเข้า: หากเป็นไปได้ ควรขอสั่งสินค้าจำนวนไม่มากในครั้งแรกเพื่อทดสอบคุณภาพและบริการขนส่ง จากนั้นค่อยขยายการนำเข้าสินค้าในจำนวนมากหากไม่มีปัญหา.

ในการนำเข้าสิน้าจากจีนสามารถนำเข้าสินค้าอะไรได้บ้าง?

ในการนำเข้า

สินค้าจากจีน มีสินค้าหลายประเภทที่สามารถนำเข้ามาได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและข้อกำหนดทางกฎหมายของประเทศผู้รับ แต่โดยทั่วไปแล้วสามารถนำเข้าสินค้าหลักๆ ดังนี้:

  1. เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์:
    • โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์, ทีวี, เครื่องเสียง, หูฟัง, อุปกรณ์เสริมต่างๆ
    • เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น เครื่องปั่น, หม้อหุงข้าว, พัดลม, เตาไมโครเวฟ ฯลฯ
  2. เครื่องประดับและแฟชั่น:
    • เสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, เครื่องประดับ, นาฬิกา, หมวก
    • สินค้าแฟชั่นและไอเทมที่ได้รับความนิยมในตลาด
  3. สินค้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสุขภาพ:
    • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • น้ำหอมและเครื่องสำอางจากแบรนด์ต่างๆ ที่มีความนิยมในตลาดโลก
  4. อุปกรณ์กีฬาและฟิตเนส:
    • อุปกรณ์ออกกำลังกาย เช่น ดัมเบล, เครื่องออกกำลังกาย, อุปกรณ์ฟิตเนสต่างๆ
    • เสื้อผ้าและรองเท้ากีฬาจากแบรนด์ต่างๆ
  5. ของเล่นและสินค้าสำหรับเด็ก:
    • ของเล่นเสริมพัฒนาการ, รถเข็นเด็ก, เสื้อผ้าเด็ก
    • สินค้าสำหรับเด็กเช่น ผ้าอ้อม, จานชามเด็ก, ของใช้เด็ก
  6. เครื่องมือและอุปกรณ์ก่อสร้าง:
    • เครื่องมือไฟฟ้า, เครื่องมือช่าง, อุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ
    • วัสดุก่อสร้าง เช่น ซีเมนต์, ปูน, เหล็ก
  7. อุปกรณ์และอะไหล่ยานยนต์:
    • อะไหล่รถยนต์, อุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์
    • ยาง, อุปกรณ์ตรวจสภาพรถ
  8. สินค้าในกลุ่มของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์:
    • โคมไฟ, ผ้าม่าน, การ์ดตกแต่ง, เฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ, เก้าอี้, เตียง
    • สินค้าตกแต่งบ้านที่มีดีไซน์หลากหลาย
  9. วัสดุและอุปกรณ์ทางการเกษตร:
    • เมล็ดพันธุ์, ปุ๋ย, อุปกรณ์การเกษตร เช่น เครื่องพ่นยา, เครื่องตัดหญ้า
    • อุปกรณ์ที่ใช้ในสวนและการปลูกพืช
  10. สินค้าทางอาหารและเครื่องดื่ม:
    • วัตถุดิบในการทำอาหาร, อาหารสำเร็จรูป, ขนมขบเคี้ยว, เครื่องดื่ม
    • สมุนไพร, ผลไม้แห้ง, เครื่องเทศ

หมายเหตุ:

  • ก่อนนำเข้าสินค้าจากจีน ควรตรวจสอบข้อกำหนดและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าภาษีศุลกากร, กฎหมายการนำเข้าสินค้า, มาตรฐานสินค้า และเอกสารที่จำเป็น
  • บางประเภทสินค้าอาจมีข้อห้ามหรือข้อจำกัดในการนำเข้าขึ้นอยู่กับประเภทและการควบคุมในแต่ละประเทศ.

สรุป

การหลีกเลี่ยงปัญหาการนำเข้าสินค้าจากจีนสามารถทำได้โดยการเลือกซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้, ตรวจสอบคุณภาพสินค้าและการขนส่ง, ใช้ช่องทางการชำระเงินที่ปลอดภัย, และทดสอบสินค้าก่อนสั่งซื้อจำนวนมาก ควรตรวจสอบใบรับรองมาตรฐานสินค้าและตรวจสอบกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าของประเทศ รวมถึงใช้บริการตรวจสอบคุณภาพภายในจีนเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้า.

หากคุณยังสั่งของจากเว็บจีนยังไม่คล่องเรามีคอร์สสอนสั่งของจากจีนมาแนะนำเราจะสอนคุณจนกว่าจะเข้าใจและทำเป็นในที่สุด เพื่อคุณสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจของคุณได้อีกด้วย

  • ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้
  • สอนตั้งแต่เริ่มต้น จนชำนาญ
  • การันตีผู้เรียน 99.5% เมื่อเรียนจบคอร์ส สามารถสั่งสินค้าเองได้เลย
  • มีทริคและเทคนิคพิเศษในการสั่งสินค้าผ่านเว็บให้ เฉพาะนักเรียนของเราทั้งนั้น

พิเศษคอร์ส เรียนออนไลน์

3,500 เหลือเพียง 2,499 / ตลอดชีพ

คลิ๊ก ! ซื้อคอร์สเรียน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *